รหัสทัวร์ : VN5224686
ระยะเวลา : 3D2N
ทัวร์เวียดนามใต้ Vin & Sun Phu Quoc (VZ) 3วัน 2คืน
เดือน | วันที่เดินทาง | ราคา |
---|
ธันวาคม | 6-8 | 14,88811,888 |
---|---|---|
8-10 (วันรัฐธรรมนูญ) (1ที่สุดท้าย ฟรีพักเดี่ยว) | 12,88811,888 | |
20-22 | 14,888 | |
30-1 ม.ค. / 31-2 ม.ค. 68 (วันขึ้นปีใหม่) | 17,888 | |
ธันวาคม |
6-8 | 14,88811,888 |
8-10 (วันรัฐธรรมนูญ) (1ที่สุดท้าย ฟรีพักเดี่ยว) | 12,88811,888 |
20-22 | 14,888 |
30-1 ม.ค. / 31-2 ม.ค. 68 (วันขึ้นปีใหม่) | 17,888 |
มกราคม | 10-12 | 13,888 |
---|---|---|
มกราคม |
10-12 | 13,888 |
กุมภาพันธ์ | 14-16 / 21-23 / 28-2 มี.ค. | 13,888 |
---|---|---|
กุมภาพันธ์ |
14-16 / 21-23 / 28-2 มี.ค. | 13,888 |
มีนาคม | 7-9 / 8-10 / 14-16 | 13,888 |
---|---|---|
มีนาคม |
7-9 / 8-10 / 14-16 | 13,888 |
รหัสทัวร์ : VN4824641
ระยะเวลา : 4D3N
ทัวร์เวียดนามใต้ FEEL SO GOOD ญาจาง ดาลัด วินเพิร์ลแลนด์ (FD) 4วัน 3คืน
เดือน | วันที่เดินทาง | ราคา |
---|
ธันวาคม | 20-23 | 15,888 |
---|---|---|
29-1 ม.ค. 68 (วันขึ้นปีใหม่) (1 ที่สุดท้าย) | 17,888 | |
ธันวาคม |
20-23 | 15,888 |
29-1 ม.ค. 68 (วันขึ้นปีใหม่) (1 ที่สุดท้าย) | 17,888 |
มกราคม | 17-20 (1ที่สุดท้าย) | 13,888 |
---|---|---|
มกราคม |
17-20 (1ที่สุดท้าย) | 13,888 |
กุมภาพันธ์ | 14-17 / 28-3 มี.ค. | 15,888 |
---|---|---|
21-24 | 14,888 | |
กุมภาพันธ์ |
14-17 / 28-3 มี.ค. | 15,888 |
21-24 | 14,888 |
มีนาคม | 14-17 / 21-24 / 28-31 | 14,888 |
---|---|---|
มีนาคม |
14-17 / 21-24 / 28-31 | 14,888 |
รหัสทัวร์ : VN0924552
ระยะเวลา : 4D3N
ทัวร์เวียดนามใต้ มหัศจรรย์ VIETNAM โฮจิมินห์ ดาลัด ญาจาง (FD) 4วัน 3คืน
เดือน | วันที่เดินทาง | ราคา |
---|
ธันวาคม | 19-22 | 17,99914,999 |
---|---|---|
28-31 | 20,99918,999 | |
29-1 ม.ค. 68 (วันขึ้นปีใหม่) | 20,999 | |
ธันวาคม |
19-22 | 17,99914,999 |
28-31 | 20,99918,999 |
29-1 ม.ค. 68 (วันขึ้นปีใหม่) | 20,999 |
มกราคม | 11-14 / 18-21 | 16,999 |
---|---|---|
23-26 | 19,999 | |
มกราคม |
11-14 / 18-21 | 16,999 |
23-26 | 19,999 |
กุมภาพันธ์ | 1-4 / 6-9 | 19,999 |
---|---|---|
15-18 / 22-25 / 27-2 มี.ค. | 16,999 | |
กุมภาพันธ์ |
1-4 / 6-9 | 19,999 |
15-18 / 22-25 / 27-2 มี.ค. | 16,999 |
มีนาคม | 1-4 / 13-16 / 20-23 / 22-25 / 27-30 | 16,999 |
---|---|---|
มีนาคม |
1-4 / 13-16 / 20-23 / 22-25 / 27-30 | 16,999 |
รหัสทัวร์ : VN5324108
ระยะเวลา : 4D3N
ทัวร์เวียดนามใต้ VIETNAM HO CHI MINH MUINE DALAT (TG) 4วัน 3คืน
เดือน | วันที่เดินทาง | ราคา |
---|
ธันวาคม | 25-28 (วันคริสต์มาส) | 17,91915,919 |
---|---|---|
28-31 (วันสิ้นปี) / 29-1 ม.ค. 68 (วันขึ้นปีใหม่) | 20,919 | |
ธันวาคม |
25-28 (วันคริสต์มาส) | 17,91915,919 |
28-31 (วันสิ้นปี) / 29-1 ม.ค. 68 (วันขึ้นปีใหม่) | 20,919 |
รหัสทัวร์ : VN4624128
ระยะเวลา : 4D3N
ทัวร์เวียดนามใต้ ญาจาง ดาลัด มุยเน่ โฮจิมินห์ (FD) 4วัน 3คืน
เดือน | วันที่เดินทาง | ราคา |
---|
ธันวาคม | 14-17 | 16,999 |
---|---|---|
ธันวาคม |
14-17 | 16,999 |
มกราคม | 16-19 | 16,999 |
---|---|---|
มกราคม |
16-19 | 16,999 |
กุมภาพันธ์ | 15-18 / 27-2 มี.ค. | 16,999 |
---|---|---|
กุมภาพันธ์ |
15-18 / 27-2 มี.ค. | 16,999 |
มีนาคม | 6-9 / 13-16 | 16,999 |
---|---|---|
มีนาคม |
6-9 / 13-16 | 16,999 |
รหัสทัวร์ : VN1524355
ระยะเวลา : 4D3N
แพ็คเกจทัวร์เวียดนามใต้ โฮจิมินห์ มุยเน่ ดาลัด 4วัน 3คืน (กรุ๊ป 7-9 ท่าน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
เดือน | วันที่เดินทาง | ราคา |
---|
กรกฎาคม | ตลอดเดือนกรกฎาคม (ยกเว้นติดวันหยุดนักขัตฤกษ์) | 11,900 |
---|---|---|
กรกฎาคม |
ตลอดเดือนกรกฎาคม (ยกเว้นติดวันหยุดนักขัตฤกษ์) | 11,900 |
สิงหาคม | ตลอดเดือนสิงหาคม (ยกเว้นติดวันหยุดนักขัตฤกษ์) | 11,900 |
---|---|---|
สิงหาคม |
ตลอดเดือนสิงหาคม (ยกเว้นติดวันหยุดนักขัตฤกษ์) | 11,900 |
รหัสทัวร์ : VN1524368
ระยะเวลา : 4D3N
แพ็คเกจทัวร์เวียดนามใต้ ฟูก๊วก 4วัน 3คืน (กรุ๊ป 7-9 ท่าน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
เดือน | วันที่เดินทาง | ราคา |
---|
กรกฎาคม | ตลอดเดือนกรกฎาคม ยกเว้นติดวันหยุดนักขัตฤกษ์ | 13,500 |
---|---|---|
กรกฎาคม |
ตลอดเดือนกรกฎาคม ยกเว้นติดวันหยุดนักขัตฤกษ์ | 13,500 |
สิงหาคม | ตลอดเดือนสิงหาคม ยกเว้นติดวันหยุดนักขัตฤกษ์ | 13,500 |
---|---|---|
สิงหาคม |
ตลอดเดือนสิงหาคม ยกเว้นติดวันหยุดนักขัตฤกษ์ | 13,500 |
รหัสทัวร์ : VN5324106
ระยะเวลา : 4D3N
ทัวร์เวียดนามเหนือ VIETNAM HANOI SAPA FANSIPAN MEGA GRAND WORLD (TG) 4วัน 3คืน
เดือน | วันที่เดินทาง | ราคา |
---|
ธันวาคม | เต็ม | 23,919 |
---|---|---|
ธันวาคม |
เต็ม | 23,919 |
รหัสทัวร์ : VN5324074
ระยะเวลา : 5D4N
ทัวร์เวียดนาม จีน เที่ยว 2 แผ่นดิน VIETNAM CHINA ฮานอย ซาปา เจียนสุ่ย ผิงเปียน (TG) 5วัน 4คืน
เดือน | วันที่เดินทาง | ราคา |
---|
พฤศจิกายน | เต็ม | 24,91919,919 |
---|---|---|
พฤศจิกายน |
เต็ม | 24,91919,919 |
รหัสทัวร์ : VN2824184
ระยะเวลา : 4D3N
ทัวร์เวียดนามเหนือ VIETNAM ฮานอย ซาปา ฮาลอง ฟานซิปัน (TG) 4วัน 3คืน
เดือน | วันที่เดินทาง | ราคา |
---|
ธันวาคม | Sold Out | 22,990 |
---|---|---|
ธันวาคม |
Sold Out | 22,990 |
รหัสทัวร์ : VN4824309
ระยะเวลา : 4D3N
ทัวร์เวียดนามใต้ HAVE FUN ญาจาง วินเพิร์ลแลนด์ (FD) 4วัน 3คืน
เดือน | วันที่เดินทาง | ราคา |
---|
พฤศจิกายน | เต็ม | 14,88811,888 |
---|---|---|
พฤศจิกายน |
เต็ม | 14,88811,888 |
เมืองฮานอย (HA NOI) เป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ ฮานอย หมายถึงตอนต้นของแม่น้ำ ตั้งอยู่ตอนต้นบนลุ่มแม่น้ำแดง เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2551 ได้มีการขยายเขตฮานอยไปอีก โดยครอบคลุมบริเวณมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า เพื่อรองรับการเติบโตของเมือง
สุสานประธานาธิบดีโฮจิมินห์ (HO CHI MINH MAUSOLEUM) เป็นอนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย เป็นสุสานขนาดใหญ่ของอดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนาม ตั้งอยู่ที่กึ่งกลางจัตุรัสบาสติงห์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่โฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสุสานของเลนินในกรุงมอสโคว์ แต่รวมสถาปัตยกรรมของเวียดนามเข้าไปด้วย ดูสวยงามไม่เหมือนสุสานเลย
ทะเลสาบคืนดาบ (THE SWORD LAKE) ทะเลสาบใจกลางเมืองฮานอย ทะเลสาบแห่งนี้มีตำนานกล่าวว่า ในสมัยที่เวียดนามทำสงครามสู้รบกับประเทศจีน กษัตริย์แห่งเวียดนามได้สงครามมาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่สามารถเอาชนะทหารจากจีนได้สักที ทำให้เกิดความท้อแท้พระทัย เมื่อได้มาล่องเรือที่ทะเลสาบแห่งนี้ ได้มีเต่าขนาดใหญ่ตัวหนึ่งได้คาบดาบวิเศษมาให้พระองค์ เพื่อทำสงครามกับประเทศจีน หลังจากที่พระองค์ได้รับดาบมานั้น พระองค์ได้กลับไปทำสงครามอีกครั้ง และได้รับชัยชนะเหนือประเทศจีน ทำให้บ้านเมืองสงบสุข เมื่อเสร็จศึกสงครามแล้ว พระองค์ได้นำดาบมาคืน ณ ทะเลสาบแห่งนี้
ทำเบียบประธานาธิบดี (PRESIDENTIAL PALACE) เป็นเเหล่งท่องเที่ยวระดับเเลนด์มาร์คของเวียดนามเป็นสถานที่ที่เเสดงถึงการปลดแอกเวียดนามออกจากการปกครองของฝรั่งเศสเเละเป็นจุดที่ก่อให้เกิดประเทศเวียดนามสมัยใหม่ในปัจจุบัน ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเวียดนาม
วัดหง็อกเซิน (NGOC SON TEMPLE) โดยวัดแห่งนี้มีอีกชื่อวัด วัดเนินหยก ภายในวัดมีวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีนและตะพาบในตำนาน ซึ่งเชื่อกันว่าตะพาบตัวนี้เป็นตัวที่นำดาบลงทะเลสาบคืนดาบจนเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบในปัจจุบัน และยังมีอนุสาวรีย์ของ ตรันคว็อกตวน แม่ทัพที่คอยสู้รบกับทหารมองโกเลียในสมัยที่เวียดนามถูกมองโกเลียรุกราน
ถนน 36 สาย (36 ROAD) มีสินค้าราคาถูกให้ท่านได้เลือกสรรมากมาย กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า ของที่ระลึกต่างๆ ร้านกาแฟ หรือมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย
เมืองฮาลอง (HA LONG) เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับประเทศจีนอยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออก 170 กิโลเมตร
ล่องเรืออ่าวฮาลองเบย์ (HA LONG BAY CRUISE) ชมความงามตามธรรมชาติ ที่สรรค์สร้างด้วยความงดงามดังภาพวาดโดยจิตกรเอก อ่าวฮาลอง ประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 1969 เกาะ ได้รับการประกาศเป็น“มรดกโลก”โดยองค์การยูเนสโก อ่าวแห่งนี้เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนมากมายระหว่างการล่องเรือท่านจะได้ชมความงามของเกาะแก่งต่าง ๆ จุดไฮไลท์คือ เกาะไก่ชน
ถ้ำนางฟ้า ชมหินงอกหินย้อยมากมาย ล้วนแต่สวยงามและน่าประทับใจยิ่งนักถ้ำแห่งนี้เพิ่งถูกค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการประดับแสงสีตามผนังและมุมต่าง ๆ ในถ้ำ ซึ่งบรรยากาศภายในถ้ำท่านจะชมความสวยงามตามธรรมชาติที่เสริมเติมแต่งโดยมนุษย์ แสงสีที่ลงตัวทำให้เกิดจินตนาการรูปร่างต่าง ๆ มากมาย ทั้ง รูปมังกร เสาค้ำฟ้าทั้ง 4 เสา รูปปีกอินทรี รูปนางฟ้า รูปคู่รักหนุ่มสาว พระพุทธรูป ฯลฯ ตลอดจนเลือกซื้อสิ้นค้าที่ระลึกต่างๆ
เมืองซาปา (SAPA) เมืองเล็กๆ แห่งนี้เริ่มต้นเป็นเมืองแห่งการพักผ่อนเมื่อครั้งที่ฝรั่งเศสซึ่งปกครองเวียดนามอยู่ในขณะนั้นได้มาสร้างสถานีบนภูเขาขึ้นในปี พ.ศ.2465 จากนั้นจึงเริ่มมีชาวต่างชาติมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดเป็นประจำ เพราะอากาศดีและเงียบสงบ และเริ่มเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยว จึงทำให้ปัจจุบันที่นี่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากบรรยากาศแล้ว บรรดาชาวเขาที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ก็มีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ พื้นที่ในซาปาเต็มไปด้วยนาขั้นบันไดท่ามกลางที่ลาดไหล่เขาที่ทอดตัวอย่างมีเสน่ห์ นอกจากนี้ยังมีเทือกเขาฟานสีปัน ที่สูงที่สุดในอินโดจีนที่ความสูง 3,143 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่เมืองซาปารถใหญ่ไม่สามารถสัญจรนักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าท่องเที่ยวภายในเมืองเท่านั้น
ที่เที่ยวใหม่แห่งเมืองซาปา โมอาน่า ซาปา คาเฟ่ (MOANA SAPA CAFÉ) เป็นจุดถ่ายรูปใหม่แห่งเมืองซาปา จำลองไฮไลท์ของที่เที่ยวแต่ละที่มารวมไว้ให้ท่านได้ถ่ายรูปท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มจำหน่ายให้ท่านได้พักดื่มเครื่องดื่ม และยังได้เพลิดเพลินกับสายหมอกจางๆ พร้อมกับบรรยากาศสุดฟิน
ยอดเขาฟานซิปัน (FANSIPAN) แลนด์มาร์คจุดที่สูงที่สุด มีข้อความ FANSIPAN 3.143 M หมายถึง 'คุณคือผู้พิชิตยอดฟานซิปันหลังคาแห่งอินโดจีน' จะได้ชมวิวพาโนราม่า 360 องศา พร้อมกับบรรยากาศหนาวเย็น การเดินทางจ นั่งรถราง (MOUNTAIN TRAIN) ใหม่สุดจากสถานีซาปา สู่สถานีกระเช้าเพื่อขึ้นยอดเขาฟานซีปันระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติระหว่างสองข้างทาง และต่อด้วย นั่งกระเช้าไฟฟ้า (CABLE CAR) เพื่อขึ้นสู่ฟานซิปันยอดเขาสูงสุดแห่งเวียดนามและในภูมิภาคอินโด เป็นกระเช้าไฟฟ้า 3 สายแบบไม่หยุดพัก ขนาดใหญ่จุได้กว่า 30 คน มีความยามประมาณ 6,200 เมตร หรือ ราว 6 กิโลเมตร ด้านบนนั้น จะมี หมู่บ้านก๊าตก๊าต (CAT CAT VILLAGE) หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งดำ ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาในหมู่บ้านนี้และชมแปลงนาข้าวแบบขั้นบันได ที่สวยงามกว้างสุดลูกหูลูกตา
นิงห์บิงห์ (NINH BINH) เมืองเก่าแก่ที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติ มีพื้นที่ชุ่มน้ำในอาณาเขตอันไพศาลจนถูกขนานนามว่า “ฮาลองบก” เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์แปลกตา ทั้งเทือกเขา เนินเขาหินปูน ที่ราบต่ำ และนาข้าวล้อมรอบด้วยยอดเขา99 ยอด จึงถือกันว่าเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ คณะปฏิวัติของโฮจิมินห์ก็ได้เคยตั้งฐานทัพขึ้นที่นี่เป็นแห่งแรกในการศึก เดียนเบียนฟู
ล่องเรือนิงห์บิงห์ (NINH BINH BOAT) เป็นแหล่งท่องเที่ยว และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ชื่อดัง “KONG SKULL ISLAND” ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง ในจังหวัดนิงบิ่งห์ เป็นพื้นที่ที่มีทั้งภูมิทัศน์อันงดงามของยอดเขาหินปูน แม่น้ำหลายสายไหลลัดเลาะ บางส่วนจมอยู่ใต้น้ำ และยังถูกล้อมรอบด้วยผาสูงชัน จึงทำให้สถานที่แห่งนี้งดงามน่าชม และยังมีร่องรอยทางโบราณคดีที่เผยให้เห็นการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์สมัย โบราณ ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ นำท่านลงเรือล่องไปตามสายธารแห่งธาราที่ไหลเย็น ในช่วงแรกของการเดินทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพของภูเขาสองฝั่งแม่น้ำ ซึ่งมีความยาวหลายกิโลเมตร ภาพที่ปรากฏในระ หว่างการเดินทางหลายท่านเปรียบเหมือน กุ้ยหลินของจีน หรือ อ่าวฮาลองเบย์ เพลิดเพลินกับการ นั่งเรือ ล่องผ่านท้องน้ำ ชมทัศนียภาพของภูเขาน้อยใหญ่ สลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา สองข้างทางเป็นทุ่งนาบ้างทุ่งหญ้าคาบ้างสลับกันไป เป็นสถานที่ท่องเทียวทางธรรรมชาติที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของเวียตนาม ทิวทัศน์ความสวยงามของที่นี้ได้รับการรังสรรค์จากธรรมชาติล้วนๆ
เมืองฮานอย (HA NOI) เป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ ฮานอย หมายถึงตอนต้นของแม่น้ำ ตั้งอยู่ตอนต้นบนลุ่มแม่น้ำแดง เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2551 ได้มีการขยายเขตฮานอยไปอีก โดยครอบคลุมบริเวณมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า เพื่อรองรับการเติบโตของเมือง
สุสานประธานาธิบดีโฮจิมินห์ (HO CHI MINH MAUSOLEUM) เป็นอนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย เป็นสุสานขนาดใหญ่ของอดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนาม ตั้งอยู่ที่กึ่งกลางจัตุรัสบาสติงห์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่โฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสุสานของเลนินในกรุงมอสโคว์ แต่รวมสถาปัตยกรรมของเวียดนามเข้าไปด้วย ดูสวยงามไม่เหมือนสุสานเลย
ทะเลสาบคืนดาบ (THE SWORD LAKE) ทะเลสาบใจกลางเมืองฮานอย ทะเลสาบแห่งนี้มีตำนานกล่าวว่า ในสมัยที่เวียดนามทำสงครามสู้รบกับประเทศจีน กษัตริย์แห่งเวียดนามได้สงครามมาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่สามารถเอาชนะทหารจากจีนได้สักที ทำให้เกิดความท้อแท้พระทัย เมื่อได้มาล่องเรือที่ทะเลสาบแห่งนี้ ได้มีเต่าขนาดใหญ่ตัวหนึ่งได้คาบดาบวิเศษมาให้พระองค์ เพื่อทำสงครามกับประเทศจีน หลังจากที่พระองค์ได้รับดาบมานั้น พระองค์ได้กลับไปทำสงครามอีกครั้ง และได้รับชัยชนะเหนือประเทศจีน ทำให้บ้านเมืองสงบสุข เมื่อเสร็จศึกสงครามแล้ว พระองค์ได้นำดาบมาคืน ณ ทะเลสาบแห่งนี้
ทำเบียบประธานาธิบดี (PRESIDENTIAL PALACE) เป็นเเหล่งท่องเที่ยวระดับเเลนด์มาร์คของเวียดนามเป็นสถานที่ที่เเสดงถึงการปลดแอกเวียดนามออกจากการปกครองของฝรั่งเศสเเละเป็นจุดที่ก่อให้เกิดประเทศเวียดนามสมัยใหม่ในปัจจุบัน ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเวียดนาม
วัดหง็อกเซิน (NGOC SON TEMPLE) โดยวัดแห่งนี้มีอีกชื่อวัด วัดเนินหยก ภายในวัดมีวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีนและตะพาบในตำนาน ซึ่งเชื่อกันว่าตะพาบตัวนี้เป็นตัวที่นำดาบลงทะเลสาบคืนดาบจนเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบในปัจจุบัน และยังมีอนุสาวรีย์ของ ตรันคว็อกตวน แม่ทัพที่คอยสู้รบกับทหารมองโกเลียในสมัยที่เวียดนามถูกมองโกเลียรุกราน
ถนน 36 สาย (36 ROAD) มีสินค้าราคาถูกให้ท่านได้เลือกสรรมากมาย กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า ของที่ระลึกต่างๆ ร้านกาแฟ หรือมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย
เมืองฮาลอง (HA LONG) เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับประเทศจีนอยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออก 170 กิโลเมตร
ล่องเรืออ่าวฮาลองเบย์ (HA LONG BAY CRUISE) ชมความงามตามธรรมชาติ ที่สรรค์สร้างด้วยความงดงามดังภาพวาดโดยจิตกรเอก อ่าวฮาลอง ประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 1969 เกาะ ได้รับการประกาศเป็น“มรดกโลก”โดยองค์การยูเนสโก อ่าวแห่งนี้เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนมากมายระหว่างการล่องเรือท่านจะได้ชมความงามของเกาะแก่งต่าง ๆ จุดไฮไลท์คือ เกาะไก่ชน
ถ้ำนางฟ้า ชมหินงอกหินย้อยมากมาย ล้วนแต่สวยงามและน่าประทับใจยิ่งนักถ้ำแห่งนี้เพิ่งถูกค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการประดับแสงสีตามผนังและมุมต่าง ๆ ในถ้ำ ซึ่งบรรยากาศภายในถ้ำท่านจะชมความสวยงามตามธรรมชาติที่เสริมเติมแต่งโดยมนุษย์ แสงสีที่ลงตัวทำให้เกิดจินตนาการรูปร่างต่าง ๆ มากมาย ทั้ง รูปมังกร เสาค้ำฟ้าทั้ง 4 เสา รูปปีกอินทรี รูปนางฟ้า รูปคู่รักหนุ่มสาว พระพุทธรูป ฯลฯ ตลอดจนเลือกซื้อสิ้นค้าที่ระลึกต่างๆ
เมืองซาปา (SAPA) เมืองเล็กๆ แห่งนี้เริ่มต้นเป็นเมืองแห่งการพักผ่อนเมื่อครั้งที่ฝรั่งเศสซึ่งปกครองเวียดนามอยู่ในขณะนั้นได้มาสร้างสถานีบนภูเขาขึ้นในปี พ.ศ.2465 จากนั้นจึงเริ่มมีชาวต่างชาติมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดเป็นประจำ เพราะอากาศดีและเงียบสงบ และเริ่มเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยว จึงทำให้ปัจจุบันที่นี่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากบรรยากาศแล้ว บรรดาชาวเขาที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ก็มีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ พื้นที่ในซาปาเต็มไปด้วยนาขั้นบันไดท่ามกลางที่ลาดไหล่เขาที่ทอดตัวอย่างมีเสน่ห์ นอกจากนี้ยังมีเทือกเขาฟานสีปัน ที่สูงที่สุดในอินโดจีนที่ความสูง 3,143 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่เมืองซาปารถใหญ่ไม่สามารถสัญจรนักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าท่องเที่ยวภายในเมืองเท่านั้น
ที่เที่ยวใหม่แห่งเมืองซาปา โมอาน่า ซาปา คาเฟ่ (MOANA SAPA CAFÉ) เป็นจุดถ่ายรูปใหม่แห่งเมืองซาปา จำลองไฮไลท์ของที่เที่ยวแต่ละที่มารวมไว้ให้ท่านได้ถ่ายรูปท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มจำหน่ายให้ท่านได้พักดื่มเครื่องดื่ม และยังได้เพลิดเพลินกับสายหมอกจางๆ พร้อมกับบรรยากาศสุดฟิน
ยอดเขาฟานซิปัน (FANSIPAN) แลนด์มาร์คจุดที่สูงที่สุด มีข้อความ FANSIPAN 3.143 M หมายถึง 'คุณคือผู้พิชิตยอดฟานซิปันหลังคาแห่งอินโดจีน' จะได้ชมวิวพาโนราม่า 360 องศา พร้อมกับบรรยากาศหนาวเย็น การเดินทางจ นั่งรถราง (MOUNTAIN TRAIN) ใหม่สุดจากสถานีซาปา สู่สถานีกระเช้าเพื่อขึ้นยอดเขาฟานซีปันระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติระหว่างสองข้างทาง และต่อด้วย นั่งกระเช้าไฟฟ้า (CABLE CAR) เพื่อขึ้นสู่ฟานซิปันยอดเขาสูงสุดแห่งเวียดนามและในภูมิภาคอินโด เป็นกระเช้าไฟฟ้า 3 สายแบบไม่หยุดพัก ขนาดใหญ่จุได้กว่า 30 คน มีความยามประมาณ 6,200 เมตร หรือ ราว 6 กิโลเมตร ด้านบนนั้น จะมี หมู่บ้านก๊าตก๊าต (CAT CAT VILLAGE) หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งดำ ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาในหมู่บ้านนี้และชมแปลงนาข้าวแบบขั้นบันได ที่สวยงามกว้างสุดลูกหูลูกตา
นิงห์บิงห์ (NINH BINH) เมืองเก่าแก่ที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติ มีพื้นที่ชุ่มน้ำในอาณาเขตอันไพศาลจนถูกขนานนามว่า “ฮาลองบก” เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์แปลกตา ทั้งเทือกเขา เนินเขาหินปูน ที่ราบต่ำ และนาข้าวล้อมรอบด้วยยอดเขา99 ยอด จึงถือกันว่าเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ คณะปฏิวัติของโฮจิมินห์ก็ได้เคยตั้งฐานทัพขึ้นที่นี่เป็นแห่งแรกในการศึก เดียนเบียนฟู
ล่องเรือนิงห์บิงห์ (NINH BINH BOAT) เป็นแหล่งท่องเที่ยว และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ชื่อดัง “KONG SKULL ISLAND” ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง ในจังหวัดนิงบิ่งห์ เป็นพื้นที่ที่มีทั้งภูมิทัศน์อันงดงามของยอดเขาหินปูน แม่น้ำหลายสายไหลลัดเลาะ บางส่วนจมอยู่ใต้น้ำ และยังถูกล้อมรอบด้วยผาสูงชัน จึงทำให้สถานที่แห่งนี้งดงามน่าชม และยังมีร่องรอยทางโบราณคดีที่เผยให้เห็นการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์สมัย โบราณ ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ นำท่านลงเรือล่องไปตามสายธารแห่งธาราที่ไหลเย็น ในช่วงแรกของการเดินทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพของภูเขาสองฝั่งแม่น้ำ ซึ่งมีความยาวหลายกิโลเมตร ภาพที่ปรากฏในระ หว่างการเดินทางหลายท่านเปรียบเหมือน กุ้ยหลินของจีน หรือ อ่าวฮาลองเบย์ เพลิดเพลินกับการ นั่งเรือ ล่องผ่านท้องน้ำ ชมทัศนียภาพของภูเขาน้อยใหญ่ สลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา สองข้างทางเป็นทุ่งนาบ้างทุ่งหญ้าคาบ้างสลับกันไป เป็นสถานที่ท่องเทียวทางธรรรมชาติที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของเวียตนาม ทิวทัศน์ความสวยงามของที่นี้ได้รับการรังสรรค์จากธรรมชาติล้วนๆ
นั่งกระเช้าไฟฟ้าซัน เวิลด์ บานาฮิลส์ (SUN WORLD BANA HILLS) ดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ของเมืองบนความสูงถึง 5,810 เมตร กระเช้าบานา-ฮิลล์เป็นกระเช้าลอยฟ้ารางเดียวแบบไม่หยุดจอดเป็นระยะทางที่ยาวที่สุดในโลก ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ.2009 (ใช้เวลาประประมาณ 15 นาที) ขึ้นไปถึงสถานีเฟรนช์ฮิลล์อันเก่าแก่ของบานาฮิลล์รีสอร์ท และได้ชื่นชมกับสุดยอดวิวทิวทัศน์ในแบบพาโนรามาในวันที่อากาศสดใส บานาฮิลล์ เป็นรีสอร์ทและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของดานัง ซึ่งการท่องเที่ยวของเวียดนามได้โฆษณาว่าบานาฮิลล์คือ ดาลัดแห่งเมืองดานัง ถูกค้นพบโดยชาวฝรั่งเศสเมื่อสมัยที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าอาณานิคม จึงได้มีการสร้างถนนขึ้นไปบนภูเขา สร้างที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อน เนื่องจากที่นี่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี ประมาณ 17 องศาเซลเซียส
บานาฮิลส์ (BANA HILLS) แหล่งรวมความสนุกและความบันเทิงบนยอดเขาสูง อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังประมาณ 40 กิโลเมตร เดิมเคยเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศของชาวฝรั่งเศส เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่หลังสงครามจบลง ชาวฝรั่งเศสพ่ายแพ้ จึงกลับประเทศไป ทำให้บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างนานหลายปี กระทั่งถูกบูรณะอีกครั้งในปี 2009
กิจกรรมที่น่าสนใจ
สะพานมือยักษ์ (GOLDEN BRIDGE) แหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดซึ่งอยู่บนเขาบาน่า ฮิลส์ เป็นสะพานสีทองทอดยาวโดยมีมือ 2 ข้างอุ้มไว้ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นเห็นชัด สวยงามเป็นอีกจุดท่องเที่ยวนึงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ท่านสามารถถ่ายรูปภาพวิวเขาบาน่าฮิลล์ ในวิวพาโนรามา 360 องศา ได้อย่างเต็มอิ่ม
สวนดอกไม้แห่งความรัก (LE JARDIN D'AMOUR) เป็นสวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส ที่มีดอกไม้หลากหลายพันธุ์ถูกจัดเป็นสัดส่วนอย่างสวยงามท่ามกลางอากาศที่แสนเย็นสบาย ที่ไม่ว่าท่านจะอยู่มุมไหนของสวนก็สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยงามอย่างมาก โดยในแต่ละเดือนก็จะมีการจัดตกแต่งผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
สักการะพระพุทธรูปหลินอึ๋ง (LINH UNH PAGODA) เป็นพระพุทธรูปหินองค์ใหญ่ตั้งตระหง่านบนยอดเขาแห่งนี้ ให้ท่านได้ขอพรเพื่อความเป็นมงคล
สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค (FANTASY PARK) ซึ่งมีเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบ เช่น ท้าทายความมันส์ของหนัง 4D ระทึกขวัญกับบ้านผีสิง เกมส์สนุกๆ เครื่องเล่นเบาๆ รถบั้ม หรือจะเลือกช้อปปิ้งของที่ระลึกของสวนสนุก (ไม่รวมค่าเข้าชมหุ่นขี้ผึ้ง)
เมืองโบราณฮอยอัน (HOI AN ANCIENT TOWN) เมืองมรดกโลกที่ยังคงเอกลักษณ์และรักษาวัฒนธรรมไว้อย่างดีเยี่ยม โดยท่านสามารถเดินเล่น ถ่ายรูป ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ได้ ไฮท์ของการมาถ่ายรูปเช็คอินที่นี้คือการได้ขึ้นไปถ่ายรูปจากมุมสูงของคาเฟ่ที่อยู่ตามซอกซอย ได้ทั้งวิว ได้ทั้งชิมกาแฟรสชาติออริจินัลของเวียดนาม สะพานญี่ปุ่น (JAPANESE BRIDGE) สะพานแห่งมิตรไมตรี ที่ได้ชื่อนี้เนื่องจากสะพานแห่งนี้สร้างขึ้นโดยชุมชนชาวญี่ปุ่น เป็นสะพานที่สร้างขึ้นข้ามคลองที่ในอดีต 400 ปีกว่าที่ผ่านมา มีชุมชนชาวญี่ปุ่นมาตั้งรกรากอยู่ และสร้างขึ้นท่ามกลางหมู่บ้านชาวจีนและญี่ปุ่น สะพานญี่ปุ่นแห่งเมืองฮอยอันนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1593 นับถึงวันนี้ก็มีอายุ 427 ปีเลยทีเดียวนับว่าเก่าแก่มาก เป็นสะพานที่สร้างด้วยวัสดุทั้งไม้และปูน แม้ผ่านกาลเวลามานานแต่ยังคงงดงามด้วยความมีเอกลักษณ์ จนเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ลักษณะเฉพาะของสะพานญี่ปุ่นเมืองฮอยอันแห่งนี้
สะพานมังกร (DRAGON BRIDGE) อีกหนึ่งที่เที่ยวแห่งใหม่ สะพานที่มีที่มีความยาว 666 เมตร ความกว้างเท่าถนน 6 เลน ด้วยงบประมาณราคาเกือบ 1.5 ล้านล้านดอง เชื่อมต่อสองฟากฝั่งของแม่น้ำฮัน เปิดให้บริการเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 38 ปี แห่งอิสรภาพของเมืองดานัง ซึ่งสะพานมังกรแห่งนี้เป็น Landmark แห่งใหม่ของเมืองดานัง ซึ่งมีรูปปั้นที่มีหัวเป็นมังกรและหางเป็นปลา พ่นน้ำ คล้ายๆสิงคโปร์ หมายเหตุ:วันเสาร์-อาทิตย์เวลา 3 ทุ่ม มังกรจะพ่นน้ำ และพ่นไฟเป็นเวลา 5 นาที
สะพานแห่งความรัก (LOVE BRIDGE) เป็นสะพานที่ถูกประดับตกแต่งด้วยเสารูปหัวใจ และจากสะพานแห่งนี้ให้ท่านได้เห็นวิวของสะพานมังกรแบบเต็มๆ
ล่องเรือกระด้งหมู่บ้านกั๊มทาน (BASKET BOAT) หมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองฮอยอันตั้งอยู่ในสวนมะพร้าวริมแม่น้ำ ในอดีตช่วงสงครามหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นที่พักอาศัยของทหาร อาชีพหลักของคนที่หมู่บ้านแห่งนี้คือประมง ระหว่างการล่องเรือท่านจะได้ชมวัฒนธรรมของชาวบ้าน ณ หมู่บ้านแห่งนี้ เป็นอีก 1 กิจกรรม ที่ต้องมาลอง สนุกสนาม เรียกเสียงหัวเราะ และความสนุก พร้อมความเสียวได้
สักการะเจ้าแม่กวนอิมหลินอึ๋ง (LINH UNG TEMPLE) นมัสการเจ้าแม่กวนอิมหลินอึ๋งแกะสลักด้วยหินอ่อนสูงใหญ่ยืนโดดเด่นสูงที่สุดในเวียดนาม ซึ่งมีทำเลที่ตั้งดี หันหน้าออกสู่ทะเลและด้านหลังชนภูเขา ตั้งอยู่บนฐานดอกบัวสง่างาม ชาวประมงนิยมไปกราบไหว้ขอพรให้ช่วยปกปักรักษา หลินอึ๋งมีความหมายว่าสมปรารถนาทุกประการ ตั้งอยู่บนชายหาดบ๊ายบุต ในลานวัดมีพระอรหันต์ 18 องค์เป็นหินอ่อนแกะสลักที่มีเอกลักษณ์ท่าทางที่ถ่ายทอดอารมณ์ทุกอย่างของมนุษย์ซึ่งแฝงไว้ด้วยคติธรรม
เมืองเว้ (HUE) เคยเป็นเมืองหลวงเก่าในสมัยราชวงศ์เหงียนช่วงปี พ.ศ. 2345–2488 มีชื่อเสียงจากโบราณสถานที่มีอยู่ทั่วเมือง เมืองเว้ตั้งอยู่ในเวียดนามตอนกลาง ริมฝั่งแม่น้ำหอม ในช่วงสงครามเวียดนาม เว้อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับอาณาเขตระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ โดยเว้อยู่ในอาณาเขตของเวียดนามใต้ ในปี พ.ศ. 2511 ตัวเมืองได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะโบราณสถานหลายแห่งที่ระดมยิงและถูกระเบิดจากกองทัพอเมริกัน แม้หลังสงครามสงบลงแล้ว เหล่าโบราณสถานก็ยังไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ เนื่องจากถูกกลุ่มผู้นำคอมมิวนิสต์และชาวเวียดนามบางส่วนมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของระบอบศักดินาในอดีต แต่หลังจากที่แนวคิดทางการเมืองได้เปลี่ยนแปลงไป ก็เริ่มมีการบูรณะโบราณสถานบางส่วนมาจนถึงปัจจุบัน พระราชวังดายโนย (Dai Noi Palace) เป็นโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นพระราชวังแห่งสุดท้ายของราชวงศ์เหงียนที่ปกครองประเทศเวียดนาม เป็นพระราชวังที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อลังการเป็นอย่างยิ่ง พระราชวังไดโนย จำลองแบบมาจากพระราชวังกู้กง หรือพระราชวังต้องห้าม ที่ยิ่งใหญ่ของกรุงปักกิ่งประเทศจีน มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ล้อมรอบด้วยคูน้ำขนาดใหญ่ทั้งสี่ด้าน เนื้อที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร และพระราชวังแห่งนี้ใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ในราชวงศ์เหงียนมาทุกพระองค์ ภายในระราชวังจะมีทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่ กำแพงรอบนอกป้องกันตัวพระราชวัง ท้องพระโรง และพระราชวังต้องห้าม
นั่งกระเช้าไฟฟ้าซัน เวิลด์ บานาฮิลส์ (SUN WORLD BANA HILLS) ดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ของเมืองบนความสูงถึง 5,810 เมตร กระเช้าบานา-ฮิลล์เป็นกระเช้าลอยฟ้ารางเดียวแบบไม่หยุดจอดเป็นระยะทางที่ยาวที่สุดในโลก ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ.2009 (ใช้เวลาประประมาณ 15 นาที) ขึ้นไปถึงสถานีเฟรนช์ฮิลล์อันเก่าแก่ของบานาฮิลล์รีสอร์ท และได้ชื่นชมกับสุดยอดวิวทิวทัศน์ในแบบพาโนรามาในวันที่อากาศสดใส บานาฮิลล์ เป็นรีสอร์ทและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของดานัง ซึ่งการท่องเที่ยวของเวียดนามได้โฆษณาว่าบานาฮิลล์คือ ดาลัดแห่งเมืองดานัง ถูกค้นพบโดยชาวฝรั่งเศสเมื่อสมัยที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าอาณานิคม จึงได้มีการสร้างถนนขึ้นไปบนภูเขา สร้างที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อน เนื่องจากที่นี่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี ประมาณ 17 องศาเซลเซียส
บานาฮิลส์ (BANA HILLS) แหล่งรวมความสนุกและความบันเทิงบนยอดเขาสูง อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังประมาณ 40 กิโลเมตร เดิมเคยเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศของชาวฝรั่งเศส เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่หลังสงครามจบลง ชาวฝรั่งเศสพ่ายแพ้ จึงกลับประเทศไป ทำให้บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างนานหลายปี กระทั่งถูกบูรณะอีกครั้งในปี 2009
กิจกรรมที่น่าสนใจ
สะพานมือยักษ์ (GOLDEN BRIDGE) แหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดซึ่งอยู่บนเขาบาน่า ฮิลส์ เป็นสะพานสีทองทอดยาวโดยมีมือ 2 ข้างอุ้มไว้ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นเห็นชัด สวยงามเป็นอีกจุดท่องเที่ยวนึงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ท่านสามารถถ่ายรูปภาพวิวเขาบาน่าฮิลล์ ในวิวพาโนรามา 360 องศา ได้อย่างเต็มอิ่ม
สวนดอกไม้แห่งความรัก (LE JARDIN D'AMOUR) เป็นสวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส ที่มีดอกไม้หลากหลายพันธุ์ถูกจัดเป็นสัดส่วนอย่างสวยงามท่ามกลางอากาศที่แสนเย็นสบาย ที่ไม่ว่าท่านจะอยู่มุมไหนของสวนก็สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยงามอย่างมาก โดยในแต่ละเดือนก็จะมีการจัดตกแต่งผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
สักการะพระพุทธรูปหลินอึ๋ง (LINH UNH PAGODA) เป็นพระพุทธรูปหินองค์ใหญ่ตั้งตระหง่านบนยอดเขาแห่งนี้ ให้ท่านได้ขอพรเพื่อความเป็นมงคล
สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค (FANTASY PARK) ซึ่งมีเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบ เช่น ท้าทายความมันส์ของหนัง 4D ระทึกขวัญกับบ้านผีสิง เกมส์สนุกๆ เครื่องเล่นเบาๆ รถบั้ม หรือจะเลือกช้อปปิ้งของที่ระลึกของสวนสนุก (ไม่รวมค่าเข้าชมหุ่นขี้ผึ้ง)
เมืองโบราณฮอยอัน (HOI AN ANCIENT TOWN) เมืองมรดกโลกที่ยังคงเอกลักษณ์และรักษาวัฒนธรรมไว้อย่างดีเยี่ยม โดยท่านสามารถเดินเล่น ถ่ายรูป ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ได้ ไฮท์ของการมาถ่ายรูปเช็คอินที่นี้คือการได้ขึ้นไปถ่ายรูปจากมุมสูงของคาเฟ่ที่อยู่ตามซอกซอย ได้ทั้งวิว ได้ทั้งชิมกาแฟรสชาติออริจินัลของเวียดนาม สะพานญี่ปุ่น (JAPANESE BRIDGE) สะพานแห่งมิตรไมตรี ที่ได้ชื่อนี้เนื่องจากสะพานแห่งนี้สร้างขึ้นโดยชุมชนชาวญี่ปุ่น เป็นสะพานที่สร้างขึ้นข้ามคลองที่ในอดีต 400 ปีกว่าที่ผ่านมา มีชุมชนชาวญี่ปุ่นมาตั้งรกรากอยู่ และสร้างขึ้นท่ามกลางหมู่บ้านชาวจีนและญี่ปุ่น สะพานญี่ปุ่นแห่งเมืองฮอยอันนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1593 นับถึงวันนี้ก็มีอายุ 427 ปีเลยทีเดียวนับว่าเก่าแก่มาก เป็นสะพานที่สร้างด้วยวัสดุทั้งไม้และปูน แม้ผ่านกาลเวลามานานแต่ยังคงงดงามด้วยความมีเอกลักษณ์ จนเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ลักษณะเฉพาะของสะพานญี่ปุ่นเมืองฮอยอันแห่งนี้
สะพานมังกร (DRAGON BRIDGE) อีกหนึ่งที่เที่ยวแห่งใหม่ สะพานที่มีที่มีความยาว 666 เมตร ความกว้างเท่าถนน 6 เลน ด้วยงบประมาณราคาเกือบ 1.5 ล้านล้านดอง เชื่อมต่อสองฟากฝั่งของแม่น้ำฮัน เปิดให้บริการเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 38 ปี แห่งอิสรภาพของเมืองดานัง ซึ่งสะพานมังกรแห่งนี้เป็น Landmark แห่งใหม่ของเมืองดานัง ซึ่งมีรูปปั้นที่มีหัวเป็นมังกรและหางเป็นปลา พ่นน้ำ คล้ายๆสิงคโปร์ หมายเหตุ:วันเสาร์-อาทิตย์เวลา 3 ทุ่ม มังกรจะพ่นน้ำ และพ่นไฟเป็นเวลา 5 นาที
สะพานแห่งความรัก (LOVE BRIDGE) เป็นสะพานที่ถูกประดับตกแต่งด้วยเสารูปหัวใจ และจากสะพานแห่งนี้ให้ท่านได้เห็นวิวของสะพานมังกรแบบเต็มๆ
ล่องเรือกระด้งหมู่บ้านกั๊มทาน (BASKET BOAT) หมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองฮอยอันตั้งอยู่ในสวนมะพร้าวริมแม่น้ำ ในอดีตช่วงสงครามหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นที่พักอาศัยของทหาร อาชีพหลักของคนที่หมู่บ้านแห่งนี้คือประมง ระหว่างการล่องเรือท่านจะได้ชมวัฒนธรรมของชาวบ้าน ณ หมู่บ้านแห่งนี้ เป็นอีก 1 กิจกรรม ที่ต้องมาลอง สนุกสนาม เรียกเสียงหัวเราะ และความสนุก พร้อมความเสียวได้
สักการะเจ้าแม่กวนอิมหลินอึ๋ง (LINH UNG TEMPLE) นมัสการเจ้าแม่กวนอิมหลินอึ๋งแกะสลักด้วยหินอ่อนสูงใหญ่ยืนโดดเด่นสูงที่สุดในเวียดนาม ซึ่งมีทำเลที่ตั้งดี หันหน้าออกสู่ทะเลและด้านหลังชนภูเขา ตั้งอยู่บนฐานดอกบัวสง่างาม ชาวประมงนิยมไปกราบไหว้ขอพรให้ช่วยปกปักรักษา หลินอึ๋งมีความหมายว่าสมปรารถนาทุกประการ ตั้งอยู่บนชายหาดบ๊ายบุต ในลานวัดมีพระอรหันต์ 18 องค์เป็นหินอ่อนแกะสลักที่มีเอกลักษณ์ท่าทางที่ถ่ายทอดอารมณ์ทุกอย่างของมนุษย์ซึ่งแฝงไว้ด้วยคติธรรม
เมืองเว้ (HUE) เคยเป็นเมืองหลวงเก่าในสมัยราชวงศ์เหงียนช่วงปี พ.ศ. 2345–2488 มีชื่อเสียงจากโบราณสถานที่มีอยู่ทั่วเมือง เมืองเว้ตั้งอยู่ในเวียดนามตอนกลาง ริมฝั่งแม่น้ำหอม ในช่วงสงครามเวียดนาม เว้อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับอาณาเขตระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ โดยเว้อยู่ในอาณาเขตของเวียดนามใต้ ในปี พ.ศ. 2511 ตัวเมืองได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะโบราณสถานหลายแห่งที่ระดมยิงและถูกระเบิดจากกองทัพอเมริกัน แม้หลังสงครามสงบลงแล้ว เหล่าโบราณสถานก็ยังไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ เนื่องจากถูกกลุ่มผู้นำคอมมิวนิสต์และชาวเวียดนามบางส่วนมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของระบอบศักดินาในอดีต แต่หลังจากที่แนวคิดทางการเมืองได้เปลี่ยนแปลงไป ก็เริ่มมีการบูรณะโบราณสถานบางส่วนมาจนถึงปัจจุบัน พระราชวังดายโนย (Dai Noi Palace) เป็นโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นพระราชวังแห่งสุดท้ายของราชวงศ์เหงียนที่ปกครองประเทศเวียดนาม เป็นพระราชวังที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อลังการเป็นอย่างยิ่ง พระราชวังไดโนย จำลองแบบมาจากพระราชวังกู้กง หรือพระราชวังต้องห้าม ที่ยิ่งใหญ่ของกรุงปักกิ่งประเทศจีน มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ล้อมรอบด้วยคูน้ำขนาดใหญ่ทั้งสี่ด้าน เนื้อที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร และพระราชวังแห่งนี้ใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ในราชวงศ์เหงียนมาทุกพระองค์ ภายในระราชวังจะมีทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่ กำแพงรอบนอกป้องกันตัวพระราชวัง ท้องพระโรง และพระราชวังต้องห้าม